เที่ยวญี่ปุ่นสุดฟันนน! 7 วัน 9 เมือง 2U x Skyfun พาเปิดทริปตะลอนเที่ยวญี่ปุ่นภูมิภาคเซโตชิ เที่ยวเมืองหลักพักเมืองรอง กับเส้นทางเที่ยวด้วยรถไฟชินกังเซน JR West

เกียมเก็บเป๋าเที่ยวกับรูทญี่ปุ่นใหม่น่าไป ทริปเดียวเที่ยวสะใจด้วยบัตรเบ่ง JR Pass: Setouchi Area Pass + Hiroshima/ Okayama Have Fun Pass!!

คราวนี้แอดจะพาไปชมเส้นทางเที่ยวญี่ปุ่นรูทใหม่ที่น่าไปรวมทั้งหมด 9 เมือง เริ่มตั้งแต่
 Fukuoka, Kitakyushu, Miyajima, Okayama, Kurashiki, Himeiji, Kobe, Kyoto ไปจบทริปที่เมือง Osaka กันจ้าาา!!!

ใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวหลายเมืองให้ครบจบคุ้มในทริปเดียวแบบนี้ อย่าลืมติดตามโปรแแพ็คเกจตั๋วบินเที่ยวสุดปังกับ 2UxSkyFun กันด้วยน้าาา!!!

***ทริปนี้อาจจะแน่นเกินไปมากกก…แต่เป็นทริปที่พวกเราไปเซอร์เวย์เส้นทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วย บัตร JR Setouchi Area Pass ใครอยากตามรอยแนะนำให้รอแพลนพิกัดเที่ยวอีกทีจะได้ไม่เหนื่อยมากแบบเรานะ 555***

แต่ละเมืองที่ไปบอกเลยว่ามีดีให้เที่ยวทุกเมือง!! ไม่ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักๆที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Fukuoka, Osaka, Kyoto, Miyajima หรือจะเป็นเมืองที่ไม่ค่อยคุ้นกันอย่าง Okayama, Kurashiki ก็มีเสน่ห์น่าเที่ยวไม่แพ้กันเลยล่ะ!!

พร้อมแล้ว!…มาตามรอยทีม 2U ไปเที่ยวกันเลยดีกว่าจ้าาา!!

เที่ยวญี่ปุ่นสุดฟันนน! 7วัน 9เมือง 2UxSkyFun พาเปิดทริปตะลอนเที่ยวญี่ปุ่นภูมิภาคเซโตชิ เที่ยวเมืองหลักพักเมืองรอง กับเส้นทางเที่ยวด้วยรถไฟชินกังเซน JR West ทริปนี้จะพามาพาเที่ยวเมืองที่ไม่ค่อยคุ้นกันอย่าง Okayama, Kurashiki ที่อยู่ในภูมิภาค เซโตะอุจิกันจ้า!!

เล่าถึง ภูมิภาค เซโตะอุจิ นิดนึงก่อนนะจ๊ะ ในภูมิภาคนี้จะประกอบด้วยทะเลเซโตะในและพื้นที่ชายฝั่งที่อยู่ติดกันของเกาะฮอนชู – เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชู สามในสี่เกาะหลักของญี่ปุ่น ครอบคลุมจังหวัดยามากุจิ, ฮิโรชิมา, โอคายามะ, เฮียวโกะ, โอซาก้า, คากาวะ, เอฮิเมะ, ฟุกุโอกะ และโออิตะ

ซึ่งทั้งแถบนี้เราสามารถเที่ยวสบายๆตลอดทั้งทริปด้วยบัตร JR Pass: Setouchi Area Pass ที่ใช้เที่ยวในแถบ Setouchi ได้ทั้งหมด

บัตรนี้รวมทั้งพาสรถไฟ รถบัสและตั๋วขึ้นเรือ มาครบจบในพาสเดียว 👉🏼 สามารถใช้ใช้ได้ตั้งแต่ Kansai Airport, Osaka, Kyoto, Nara, Kobe, Okayama, Matsuyama, Hiroshima, Miyajima, Yamaguchi, Hakata เลยล่ะ!!

✈️ สำหรับทริปของเรารอบนี้ จะบินจากไทยด้วย สายการบิน ThaiVietJet บินตรง สุวรรณภูมิ – ฟุกุโอกะ แล้ว ส่วนไฟลท์บินขากลับนั้นจะบินกลับไทยจากที่ Osaka แทน จะได้เที่ยวได้ยาวๆ ไม่ต้องวนกลับไปที่เมืองเดิมตอนขามา

Secret Bamboo Grove ป่าไผ่ลับที่ศาลเจ้า Fushimi Inarii เมือง Kyoto

ไม่ต้องไปผจญมหาชนนักท่องเที่ยวที่ Arashiyama ก็มีรูปกับป่าไผ่สวยๆได้แบบโล่งๆ ถึงจะไม่อลังเท่าแต่สบายกว่าเยอะ!!! แถมมาได้ง่าย เดินทางสะดวกอีกด้วย!

ป่าไผ่ลับนี้อยู่ที่ ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ ที่มีเสาโทริอิสีส้มนับพันต้นที่เมืองเกียวโตที่เรารู้จักกันดีนี่เอง

 Kitakyushu เมืองท่าเล็กๆที่สุดแสนชิลล! ฟิลเดินเล่นสบายๆคนไม่วุ่นวาย

คิตะคิวชู Kitakyushu เมืองท่าทางผ่านที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเกาะคิวชูในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) ซึ่งเชื่อมกับเมืองชิโมโนเซกิ จังหวัดยามากุจิ บนเกาะฮอนชู

เมืองนี้มีจุดท่องเที่ยวสวยๆหลายที่ แถมยังเดินทางมาได้สะดวกมากๆ แค่นั่งรถไฟชินกังเซนจาก Fukuoka มาแค่ 15นาทีเท่านั้น!! (ถ้านั่งรถไฟปกติใช้เวลาประมาณ 1:30 ชม.) และสามารถใช้ JR Santouchi Pass นั่งได้ฟรีจ้า!!

  •  จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ที่ยอดเขาซาระคุระ (Mount Sarakura)
  • ท่าเรือเรโทรโมจิ Mojiko Port
  •  ปราสาทโคคุระ Kokura Castle

การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟชินกังเซน จากสถานี JR Hakata มาลงที่สถานี JR Kokura ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15นาที

Kokura Castle แผนที่: https://maps.app.goo.gl/mBaMW49sne4HC4ew6

สำหรับทริปนี้ กระเป๋าเดินทางคู่ใจของพวกเรา หยิบเอากระเป๋าสีสวยๆจาก KIKI Luggage Thailand กระเป๋าเดินทาง มาด้วย ลากไปไหนใครมอง เพราะสีสวยมากกกก^^

  •  ส่วนรุ่นที่เราหิ้วในรูปเป็นรุ่น COPPER (dark blue เล็กใหญ่, เขียวใหญ่)
  • โครงอลูมิเนียม รุ่นฮิตสายลุย
  • สีสันคลาสสิก โทนพาสเทลสวยถูกใจมาก
  • รับน้ำหนักได้ 100 กก. นั่งบนกระเป๋าได้
  • ตัวล็อกปลอดภัย
  • ด้ามจับแข็งแรง
  • มุมขอบกระเป๋ากันกระแท
  • ล้อหมุนได้รอบทิศทาง
  • จุของได้เยอะ
  • ภายในกระเป๋ามีซิปสองฝั่ง จัดเก็บสัมภาระได้ง่าย
  • มีให้เลือก 6 สี : สีดำ, สีเทา, สีขาว, สีมิ้นท์, สีชมพูพาสเทล, สีเขียว

Fukuoka ทริปนี้เราแวะพักแค่คืนเดียวเท่านั้นเองจ้า!! เลยไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นอะไรมากเหมือนทริปก่อนๆ^^”

แอดเลยมาชี้เป้าที่เที่ยวฟุกุโอกะฉบับเร่งด่วน แนะนำมาที่ย่าน Tenjin เดินเที่ยวครบทั้งกินทั้งช้อป!

สำหรับสายช้อปปิ้งที่อยากมาละลายทรัพย์ในโซน Tenjin นี้ แอดแนะนำว่า ถ้าจะช้อปของแบรนด์เนมห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆประจำถิ่นอย่าง Parco, Solaris Plaza, Iwataya, Daimaru, BIC Camera, Don Quijote และ ถนนช้อปปิ้งใต้ดิน Tenjin Shikakai, ถนนช้อปปิ้งย่านเก่า Tenjin Shintensho จะอยู่ใกล้ๆกับสถานี Tenjin ทั้งหมดเลยนะ

แถมยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆที่เดินจากถนนช้อปปิ้งมาไม่ไกล อยากเดินเที่ยวถ่ายรูปกับอาคารโบราณสวยๆในสมัยเมจิ ในตัวเมืองฟุกุโอกะต้องมาที่ Kihinkan Hall เลยจ้าาาา

แล้วยิ่งตอนกลางคืนก็คือเปิดไฟสวยงามมาก สลับสีแต่ละวัน

อาคาร Kihinkan Hall นี้ว่ากันว่าสร้างขึ้นในยุคเมจิ ประมาณปี 1910 และถูกรีโนเวทใหม่ให้ใช้งานได้ในปี 1986 ใครที่ชอบถ่ายรูปกับตึกสวยๆ กลางสวนอากาศเย็นสบายๆแนะนำว่าต้องมาเลยนะ!!

Kihinkan Hall at Tenjin Central Park

  • พิกัด : Japan, 〒810-0002 Fukuoka, Chuo Ward, Nishinakasu, 6−29 旧福岡県公会堂貴賓館
  • GPS : 33.59191187171975, 130.40443259973992 See less
  • การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟจากสถานี Hakata มาลงที่สถานี Tenjin แล้วเดินประมาณ 10นาที
  • Kihinkan Hall แผนที่: https://maps.app.goo.gl/mBaMW49sne4HC4ew6

แนะนำการเดินทางเข้าเมืองแบบสะดวกๆไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้น-ลงให้เหนื่อยเหมือนที่ต้องนั่งรถไฟเข้าเมือง (ก่อนนั่งรถไฟเข้าเมืองต้องขึ้นรถชัตเติลบัสไปก่อน 1 ต่อ แล้วแบกกระเป๋าลงไปขึ้นรถไฟใต้ดินอีกที)

แต่คราวนี้เราลองขึ้นรถบัสจากที่สนามบินดูบ้าง สนนราคาค่ารถจาก Fukuoka Airport >> Hakata Bus Terminal ตกคนละ 310เยน

แต่สะดวกกว่าตรงที่เอากระเป๋าใส่ใต้รถที่เก็บของทีเดียวจบ แล้วนั่งยาวๆเข้าเมืองไปเลย อาจจะใช้เวลากว่ารถไฟเพราะในเมืองรถติดไฟแดงตามแยกต่างๆนิดนึง แต่ถูกใจคนที่ขี้เกียจแบกกระเป๋าไปมาแบบเราพอสมควรเลยจ้า!!

วิธีซื้อตั๋วก็ง่ายๆ แค่สังเกตจุดที่ขายตั๋วรถบัสในสนามบิน แล้วเดินมากดตั๋วรถที่ตู้กด(มีภาษาอังกฤษ) เลือกไปลงที่ Hakata Bus Terminal แค่นี้เอง^^

เสร็จแล้วเดินไปที่หน้าสนามบิน (ช่วงนี้ใครไปก็อาจจะงงๆนิดนึงเพราะสนามบนกำลังปรับปรุงภายในและภายนอกใหม่อยู๋นะ สังเกตป้ายบอกทางเอาไว้ให้ดีๆ รับรองไม่หลงแน่นอน!)

รับตั๋วเสร็จแล้วก็เดินมาทางออกไปที่ป้ายรอรถที่4 หน้าสนามบินเลย แค่นี้เอง!!

ส่วนขาลงนั้น รถจะไปจอดที่ Hakata Bus Terminal อาคารขนส่งรถทัวร์อยู่ติดๆกันกับสถานีรถไฟ JR Hakata เดินมาประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วจ้า

คู่มือสอนวิธีรับตั๋ว JR Rail: Setouchi Area Pass ที่ตู้อัตโนมัติในสถานี JR Hakata

รับตั๋วพาส JR Rail: Setouchi Area Pass ง่ายๆได้ที่ตู้รับตั๋วอัตโนมัติในสถานี JR Hakata ได้เลย!!! อันนี้เจ๋งโคตร!!

มาถึงที่สถานีฮากาตะแล้ว ใครที่ใช้ตั๋วพาส Setouchi Area Pass แบบแอดให้เดินมาทางเคาน์เตอร์ JR West สีดำที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าสถานีฝั่ง Chikushi Gate เลยนะ

***ในสถานีจะมีเคาเตอร์ JR อยู่ 2 แห่ง

  1. JR West สีดำ ที่เราใช้บริการในทริปนี้ สำหรับแลกพาส Setouchi Area Pass
  2. JR Kyushu สีเขียว สำหรับคนที่ใช้พาส Kyushu ทั้ง Northern, Southern และ All Kyushu Pass นะจ๊ะ!!

เดินมาที่ตู้กดตั๋วอัตโนมัติแล้วสังเกต ป้ายกระดาษ E-Ticket Pickup Here ที่ติดอยู่บนตู้ให้ดีๆ ตอนนี้ยังใช้รับตั๋วได้เฉพาะที่ตู้หมายเลข11 ตู้เดียวเท่านั้นนะ!!

กดเลือกให้เป็นภาษาอังกฤษก่อน แล้วกดปุ่ม Read QR Code แล้วสแกนบัตรรับตั๋วที่เราได้จองมาจะปริ้นท์หรือใช้ QR Code จากมือถือก็ได้นะ

สแกน QR Code เสร็จแล้ว จะมีให้กดยืนยันวันที่จะเปิดใช้งานบัตร JR Setouchi Area Pass กดใส่วันที่ให้ถูกต้อง

อ่านเงื่อนไขการใช้งานบัตรให้เรียบร้อยแล้วสแกนพาสปอร์ตเพื่อนยืนยันตัวตนรับบัตรพาสได้เลย!!

แค่นี้ก็เรียบร้อยยย!! ได้บัตร JR Setouchi Area Pass พร้อมใบเสร็จมาครอบครองกันแล้วจ้าาา!! ที่สำคัญอย่าทำบัตรหายเด็ดขาดนะ!!

นั่งรถไฟไปเที่ยวคิตะคิวชู Kitakyushu กัน!! ใช้บัตรเบ่ง JR Setouchi Pass นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Shinkansen จากสถานี JR Hakata มาลงที่สถานี Kokura ได้เลยนะ!!

ปราสาทโคคูระ (Kokura Castle) ตั้งอยู่ในเมือง Kitakyushu ปราสาทแห่งนี้เก่าแก่จนนับได้ว่าเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทญี่ปุ่นเลยทีเดียว มีรูปแบบการสร้างตามสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ สูง 5 ชั้น ตัวหลังคามีการเล่นระดับถึง 4ชั้น

ตัวปราสาทดั้งเดิมนั้นได้ถูกบูรณะก่อสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อประมาณ 400 กว่าปีก่อนช่วงปีค.ศ.1600 และถูกทำลายลงเมื่อปี ค.ศ.1865 แต่ก็มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1954 จนถึงปัจจุบันนั่นเอง

ปัจจุบันที่นี่กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จัดแสดง วัตถุโบราณ ชุดกิโมโน ชุดซามูไร โมเดลจำลองของบ้านเมืองโบราณ มีจุดชมวิวที่ชั้นบนสุดของปราสาท

บริเวณสวนติดกับบริเวณปราสาททางทิศตะวันออกจะมีสวนญี่ปุ่นตั้งอยู่ มีทั้งส่วนที่เป็นสวนแบบญี่ปุ่น /อาคารไม้ตั้งอยู่ริมบึง และพิพิธภัณฑ์

  • ค่าเข้าชม:
    • ผู้ใหญ่ 700 เยน
    • นักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน
    • นักเรียนประถมศึกษา 250 เยน
  • เวลาเปิด-ปิด:
    • 9:00-18:00 น. (เม.ย.-ต.ค.)
    • 9:00-17:00 น. (พ.ย.-มี.ค.)
  • การเดินทาง: นั่งรถไฟชินกังเซน จากสถานี JR Hakata มาลงที่สถานี JR Kokura ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15นาที
  • Kokura Castle แผนที่: https://maps.app.goo.gl/mBaMW49sne4HC4ew6

ก่อนจะแวะไปเที่ยว…พวกเราเอาแวะกระเป๋าสัมภาระทั้งหลายมาฝ่ากไว้ที่โรงแรมกันก่อน เพราะดรงแรมที่นี่เช็คอินได้ตอนบ่าย2 โน่นเลยแต่ไฟลท์บินของเรามาถึงที่ฟุกุโอกะช่วงสายๆ

โรงแรมที่พักคราวนี้เรามานอนพักที่ย่าน Hakata ที่เป็นจุดต่อรถสำหรับเดินทาง เพื่อเตรียมตัวออกตะลุยทริปในวันพรุ่งนี้เช้า นอนนี่ก็จะสะดวกหน่อย แล้วก็มีห้างฯให้ช้อปปิ้ง กินข้าวอยู่ใกล้ๆแถวนี้ นั่นก็คือ Canal City นั่นเอง!

มาถึงฟุกุโอกะแล้วต้องลองนะ!!! เมนูซูชิปลาซาบะสด มีเฉพาะที่ฟุกุโอกะที่เดียวเท่านั้น!!

ปกติแล้วจะได้กินกันแต่แต่ปลาซาบะดองน้ำส้ม แต่ที่นี่เค้ามีเสิร์ฟปลาซาบะสดๆ เนื้อเนียนนุ่ม หวานอร่อยสุดๆ เสิร์ฟมาพร้อมขิงและต้นหอมดับกลิ่นคาว

ใครที่ถึงฟุกุโอกะแล้วแอดแนะนำให้ลองชิมกันน้าาา!!

ดู รีวิวร้าน Hyotan no Kaiten Sushi ซูชิสายพาน ร้านดังคิวแน่น ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/promotion2u/Hyotan-no-Zushi

 

ที่พักของเราคืนนี้ในเมือง Fukuoka พามานอนกันที่ย่าน Hakata ที่ โรงแรม Nest Hotel Hakata Station

เดินทางง่ายสุดๆ แค่เดินข้ามถนนมาจาก สนานี JR Hakata ตรงมาประมาณ 300ม. เลี้ยวขวาเข้าถนนย่อยไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว!!!

ห้องพักของที่ Nest Hotel Hakata Station นี่เทียบกับรร.ทริปฟุกุโอกะก่อนๆของเราบอกเลยว่าดีย์งามสุดดดด

เดินก็ใกล้ๆ ห้องพักกว้างขวาง สะอาด ใหม่ ห้องน้ำกว้าง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ แหล่มมมมม!!!

Nest Hotel Hakata Station Map: https://maps.app.goo.gl/GZ87cExFEN6qiE8K6

ที่พักของเราคืนนี้ในเมือง Fukuoka พามานอนกันที่ย่าน Hakata ที่ โรงแรม Nest Hotel Hakata Station

ห้องพักของที่ Nest Hotel Hakata Station นี่เทียบกับรร.ทริปฟุกุโอกะก่อนๆของเราบอกเลยว่าดีย์งามสุดดดด!!

Lobby โรงแรม มีที่นั่งเล่นชิลๆ จะถ่ายรูปก็สวยไม่เบาเลยนะ! ตรงมุมด้านหน้าเคาเตอร์มีชั้นวางของใช้ในโรงแรมต่างๆให้หยิบไปใช้ที่ห้องพักได้

ห้องพักแบบเตียงคู่ เตียงใหญ่นอนสบายกว่าโรงแรมบิสิเนสทั่วๆไปที่เตียงคู่แคบเกือบจะเป็นเตียงเดี่ยว 555

มีโต๊ะนั่งทำงาน ตู้เย็น กาน้ำร้อน ให้ใช้งานครบ

มีตู้กดน้ำหยอดเหรียญ / ตู้ทำน้ำแข็งบริการฟรี / ที่ซักผ้าหยอดเหรียญ ให้บริการครบ ^^

Nest Hotel Hakata Station Map: https://maps.app.goo.gl/GZ87cExFEN6qiE8K6

เตรียมสตาร์ทออกเดินทางจากเมือง Fukuoka กันเลยยย!!

ตั๋ว JR Setouchi Area Pass สามารถใช้เดินทางได้ไม่จำกัด  ซึ่งเราสามารถเที่ยวสบายๆตลอดทั้งทริปด้วยบัตร JR Pass: Setouchi Area Pass ที่ใช้เที่ยวในแถบ Setouchi ได้ทั้งหมด

บัตรนี้รวมทั้งพาสรถไฟ รถบัสและตั๋วขึ้นเรือ มาครบจบในพาสเดียว 👉🏼 สามารถใช้ได้ตั้งแต่ Kansai Airport, Osaka, Kyoto, Nara, Kobe, Okayama, Matsuyama, Hiroshima, Miyajima, Yamaguchi, Hakata เลยล่ะ!!

  • สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าผ่านตู้กดตั๋วอัตโนมัติได้ 7 ครั้ง ส่วนการจองที่นั่งผ่านทางเคาน์เตอร์ออกตั๋วทั่วไปสามารถจองได้ไม่จำกัด
  • สามารถใช้ Pass ในการนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้าและที่นั่งแบบไม่จองล่วงหน้าของรถไฟหัวกระสุน “SANYO SHINKANSEN” (Shin-Osaka ⇔ Hakata) ได้
  • สามารถใช้ Pass ในการขึ้นรถไฟ Hello Kitty Shinkansen ได้
  • สามารถใช้ Pass ในการนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้าและที่นั่งแบบไม่จองล่วงหน้าของรถไฟประเภท Limited Express (HARUKA, SHIOKAZE, NAMPU และอื่นๆ)

สตาร์ทออกเดินทางจากเมือง Fukuoka ไปเที่ยวกันที่ โทริอิยักษ์กลางน้ำที่ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (厳島神社, Itsukushima Jinja) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาชินโต ที่มีอายุหลายศตวรรษบน เกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima)

ที่บนเกาะเราไปเจอคิวนทท.ต่อคิวยาวเหยียดจากศาลเจ้าหลักยาวไปจนถึงโทริอิปูนขนาดใหญ่ด้านหน้ากว่า 6-700ม. เพื่อถ่ายรูปที่มุมตรงกลางซุ้มโทริอิที่หน้าศาลเจ้า ใครอยากได้รูปก็ต้องอดทนรอกันหน่อยนะ!

การเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Miyajimaguchi แล้วเดินมาต่อเรือข้ามฟากที่ท่าเรือใกล้ๆ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

สามารถใช้ JR Pass นั่งเรือของ JR ได้ฟรี…แต่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มอีกคนละประมาณ 100เยนด้วยนะ

สามารถตรวจสอบ ตารางเดินเรือ ได้ที่นี่ >>> https://jr-miyajimaferry.co.jp/en/timetable/

เรือข้ามฟากของ JR ที่เรานั่งขาไปเค้าจะวนอ้อมไปใกล้ๆโทริอิให้ชมกันที่ฝั่งด้านขวาของเรือ ใครอยากเห็นมุมแบบนี้ก็ไปยืนรอชมกันได้เลยนะ

Miyajima Island Map: https://maps.app.goo.gl/GZ87cExFEN6qiE8K6

โทริอิยักษ์กลางน้ำที่ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (厳島神社, Itsukushima Jinja) บนเกาะมิยาจิมะแห่งนี้โด่งดังไปทั่วโลกกับภาพของเสาโทริอิสีแดงขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่กลางทะเลเซโตะสีคราม ที่ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น

ใครจะมาที่นี่อย่าลืมเช็คเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง ก่อนมาด้วยล่ะ ถ้าอยากเจอโทริอิกลางน้ำสวยๆก็ให้เลือกมาช่วงน้ำขึ้น หรือ เผื่อใครอยากจะเดินลงไปแตะขอพรโทริอิก็เลือกช่วงเวลาที่ตอนน้ำลงแทนนะ

สามารถเช็ค ตารางเข้าน้ำขึ้น-น้ำลง ได้ที่ >>> http://www.miyajima.or.jp/sio/sio01.php?act=cnf

แนะนำของอร่อยบนเกาะมิยาจิม่าที่ห้ามพลาด!!! คร็อกเกะไส้แกงกระหรี่หอยนางรม อร่อยมากกกก!!!

ดูรีวิวเต็มๆที่นี่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/Miyajima-Island

มุมถ่ายรูปสวยๆบนถนน โอโมเตะซันโด (Omotesando) ในเกาะมิยาจิมะ จากตรงนี้เค้าว่ากันว่าป็นจุดที่มองเห็นเจดีย์ห้าชั้นได้สวยที่สุดบนเกาะนี้เลยทีเดียว!!!

ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วอย่าลืมแวะเดินเล่นกีนต่อที่ ถนนโอโมเตะซันโด ถนนช้อปปิ้งของกินของฝากที่คึกคักสุดๆบนเกาะ เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกเต็มทั้ง 2 ข้างทาง

อ่อ…แล้วอย่าลืมของฝากด้วยล่ะ!! ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ ทัพพีตักข้าว ชาคุจิ (杓子 / Shakujii) ที่ยังคงผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม

ที่มาของทัพพีตักข้าวมหัศจรรย์ นี้ว่ากันว่าเมื่อประมาณปี 1700 มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้สอนเคล็ดลับในการทำชาคุจิมหัศจรรย์ที่เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภมาสู่ผู้ที่กินข้าวที่ตักด้วยทัพพีนี้ให้กับชาวบ้าน ต่อมาเจ้าชาคุจินี้ก็เลยกลายมาเป็นของที่ระลึกประจำเกาะแห่งนี้นี่เอง ^^

นอกจากโทริอิยักษ์แล้วที่นี่ยังมีน้องกวางเดินเล่นชิลๆรอต้อนรับอยู่บนเกาะด้วยนะจ๊ะ!!!

น้องๆบนเกาะนี้น่ารัก สุภาพมากในระดับนึงเลย ส่วนตัวเราว่าน้องเรียบร้อยกว่ากวางที่สวนนาราด้วยซ้ำ^^”

น้องกวางหลายตัวจะเดินเล่นอยู่แถวๆริมท่าเรือ แก๊งค์ตรงนั้นดูชิลๆนั่งอาบลมตากแดด ให้คนเข้าไปลูบจับเล่นได้

😅 ส่วนน้อนๆที่อยู่เข้ามาใกล้ๆศาลเจ้าน่าจะเจอคนเยอะ บางตัวก็ดูหงุดหงิดเหมือนกันนะ555

ที่สำคัญ ถ้าจะนั่งเล่นกับน้องกวางบนเกาะแนะนำให้เก็บข้าวของให้เรียบร้อย น้องกวางบางตัวก้ซนใช่ย่อย อย่างที่แอดโดนคือน้องมาแทะเอาแท็กกระดาษที่ติดกระเป๋าของเราไปกินซะงั้น ^^

ส่วนคุณป้าที่นั่งใกล้ๆเราก็โดนน้องป่วนจะแย่งห่อกระดาษไปแทะเล่นเหมือนกัน 55

เดินทางออกจากเกาะมิยาจิมะไปเที่ยวกันต่อเลยยย!!

จุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่เมือง Okayama ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของ จังหวัดโอคายามะ (Okayama Prefecture) ภูมิภาคชูโกกุ (Chūgoku) ด้วยเช่นกัน ส่วนเมืองท่องเที่ยวใกล้ๆที่น่าสนใจก็มี เมืองคุราชิกิ (Kurashiki) และ เมืองทสึยาม่า (Tsuyama)

จังหวัดโอคายามะเป็นต้นกำเนิดของนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นเรื่อง ‘โมโมทาโร่’ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กชายผู้กล้าหาญที่เกิดมาจากลูกท้อ และภายหลังได้เดินทางไปปราบยักษ์พร้อมกับสัตว์สหายทั้งสามคือสุนัข ลิง และนก

หลายสิ่งในเมืองนี้จึงถูกสร้างสรรค์ออกมาเกี่ยวข้องกับนิทานโมโมทาโร่นี้ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะฝาท่อตามฟุตบาท หรือ ประติมากรรมที่จัดวางในเมือง (ที่เราเจอเป็นรูปปั้นยักษ์เหล็กหล่อตัวจิ๋ว วางเป็นประติมากรรมอยู่ริมทางเดิน อย่างเจ๋งอ่ะ!!)

ส่วนการเดินทางภายในเมืองเราใช้บริการ รถราง Okayama Electric Tramway ทั้ง 2สาย เป็นหลัก

รถรางที่ใช้เดินทางในเมืองโอคายาม่า หลักๆคือเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟกับที่เที่ยวต่างๆภายในเมือง ตัวรถรางนั้นไม่ใหญ่มาขนาดพอๆกับรถบัส นั่งหันหน้าเข้าหากันแบบรถไฟทั่วๆไป สามารถใช้บัตรเงินสดต่างๆอย่างเช่น SUICA, ICOCA และบัตรอื่นๆ

ส่วนเราสามารถใช้บัตร JR Rail: Setouchi Area Pass นั่งรถรางนี้ได้ฟรีตลอดเวลา^^

***ใครที่หิ้วกระเป๋าเดินทางระวังนิดนึงนะ รถรางที่นี่ประตูค่อนข้างแคบเลย หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ขึ้น-ลงต้องระวังนิดนึงนะ

เจ้ารถรางในเมืองนี้มีความเก๋กู๊ด..ตรงที่แต่ละคันจะมีการตกแต่งสีและลวดลายต่างๆกันออกไป บางคันสีเหลือง, สีส้ม, สีม่วง และมีรถลิมิเตดบางคันอย่างเจ้าขบวนรถ Tama Tram ก็ตกแต่งเป็นรูปเจ้าเหมียวทามะคล้ายๆกันกับขบวนรถไฟทามะที่วากายาม่าเลย

ส่วนในรูปที่เป็นรถรางคันสีแดงหน้าตาเป็นตัวการ์ตูนด้านซ้ายที่ชื่อ Wilson เป็นขบวนรถพิเศษ Okaden Chuggington สำหรับเด็กๆ มีเด็กๆกับบรรดาพ่อแม่จองตั๋วขึ้นไปนั่งเล่นกิจกรรมต่างๆอย่างสนุกสนานกันนั่นเอง

Okayama Map: https://maps.app.goo.gl/GYhVH9GvvkGo6h999

Okayama Korakuen Garden 岡山後楽園

สวนโครากุเอ็ง สวนขนาดใหญ่ที่สร้างโดยผู้ปกครองลำดับที่ 2 ของแคว้นโอคายามะ มีอายุมานานกว่า 300 ปี

ที่นี่ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสามสวนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับ 3 ดาวจากมิชลินกรีนไกด์เจแปน และได้รับการบันทึกให้เป็นแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมด้วย

สวนสาธารณะที่โด่งดังที่สุดในเมืองโอคายาม่า ด้านในสวนมีการจัดภูมิทัศน์ให้เดินชมหลากหลายแบบ มีทั้งร้านน้ำชาดั้งเดิมที่มีเมนูอร่อยๆประจำท้องถิ่นขาย และบ่อน้ำเก่าที่เต็มไปด้วยปลาคาร์ปญี่ปุ่น (เราไปจังหวะดีงาม…เจอเค้ากำลังขัดตะไคร่น้ำล้างบ่อพอดี 555)

มุมมองจากด้านใน สวนโครากุเอ็ง ที่มองออกไปเห็นยอดปราสาทโอคายาม่าอยู่ไกลๆ มองเห็นได้เลยว่าที่สวนนี้เค้าจัดภูมิทัศน์ให้สวยงามแลดูเข้ากันกับปราสาทที่อยู่ใกล้ๆได้อย่างลงตัวจริงๆ

จากจุดตรงที่เรายืนถ่ายรูปที่มุมนี้ มีเรือนน้ำชาขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้ๆ ให้ชมวิวปราสาทได้สวยงามพอดิบพอดีเลย

ปราสาทโอคายาม่า หลังเดิมถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1570 แต่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1966 ปราสาทหลังปัจจุบันถือได้ว่าเป็นปราสาทจำลองแทนปราสาทดั้งเดิมก็ว่าได้

จุดเด่นของที่นี่ที่แตกต่างจากปราสาทที่อื่นๆก็คือ ด้านนอกปราสาทใช้สีดำทั้งหลังคาและผนัง ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “ปราสาทอีกา (U-Jo)

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรู้จักที่นี่ในฐานะที่เป็นปราสาทตรงข้ามกับ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ที่เป็นปราสาทสีขาวล้วนทั้งผนังและหลังคา

เวลาทำการ:

  • 20 มีนาคมถึง 30 กันยายน เวลา 7:30 น. – 18:00 น.
  • 1 ตุลาคมถึง 19 มีนาคม เวลา 8:00 น. – 17:00 น.
  • เข้าชมรอบสุดท้ายล่วงหน้า 15 นาที
  • *เวลาเปิดและปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับงานกิจกรรม
  • ไม่มีวันหยุดประจำ

ค่าเข้าชม:

  • ผู้ใหญ่ 410เยน
  • ผู้สูงอายุ 65ปีขึ้นไป 140เยน
  • เด็กอายุไม่เกิน 14 ปี เข้าชมฟรี

Okayama Korakuen Garden 岡山後楽園 Map: https://maps.app.goo.gl/QTUespWZD5ThTH4GA

การเดินทาง: นั่งรถรางสาย2สีแดง จากสถานี JR Okayama มาลงที่ป้าย Shiroshita แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

Have Fun in Okayama pass @ Okayama Castle (岡山城, Okayama-jō)

ได้เวลาใชับัตร(เบ่ง)กันอีกแล้ววว!!! ถ้ามาเที่ยวที่โอคายาม่าแอดแนะนำนี่เล้ยยย!! Have Fun in Okayama pass บัตรเที่ยวคุ้มในย่านโอคายาม่า เลือกใช้ได้ 3 บริการ จาก 9 ตัวเลือก

  • Yumeji Art Museum admission ticket 800 JPY
  • HOTELGRANVIA Okayama Lounge “Lumière” 1,000 JPY coupon
  • Okaden Museum admission ticket 1,000 JPY
  • café Antena 1,000 JPY coupon
  • BIC CAMERA 1,000 JPY shopping coupon
  • Kurashiki Bikan Historical Quater, multiple coupons 1,000 JPY
  • Kojima shuttle bus 1 day pass 620 JPY
  • Betty Smith jeans store 1,500 JPY coupon
  • WASHU BLUE RESORT Day trip bath 1,500 JPY
  • Okayama Castle Main Tower Admission Ticket + 1st Floor UJO Cafe’ Seasonal Sundae 1,500 JPY

ซึ่งแอดเลือกใช้ Okayama Castle Main Tower Admission Ticket + 1st Floor UJO Cafe’ Seasonal Sundae 1,500 JPY อันนี้เพื่อเข้าไปเดินเล่นในปราสาทและได้พบกับของอร่อยที่ไม่คาดคิด!!!

เดินเล่นชมด้านในปราสาทที่จัดแสดงเป็พิพิทธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ มีจัดแสดงสิ่งของและเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่สำคัญของปราสาทแห่งนี้ และ ปิดท้ายสุดด้วยของอร่อยที่แอดและทีมปลื้มที่สุดของที่สุดในทริปนี้เลยยย

 UJO Cafe’ Seasonal Sundae เมนูพิเศษของ Ujo-Cafe ที่ไม่มีขายหน้าร้าน แต่จะเสิร์ฟให้เฉพาะคนที่ใช้บัตร Have Fun in Okayama pass เท่านั้น!!

เห็นคุณป้าคนทำแกหายไปสักพักใหญ่ๆ แต่พอได้เห็นเท่านั้นล่ะเลยเข้าใจว่าทำไมแกหายไปนานจัง555

ไอติมซอฟ์ทเสิร์ฟเนียนนุ่มรสละมุน หวานกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมท้อปปิ้งมาพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล อย่างช่วงที่แอดไปก็จะเป็นสตรอว์เบอร์รี่  ซึ่งทีเด็ดของแก้วนี้คือ Mix Fruit ฉ่ำๆ ผสมผสานกับเยลลี่ผลไม้หนึบๆ แบ่งชั้นเป็นเลเยอร์ให้รสชาติยิ่งซับซ้อนขึ้น ให้100/10ไปเล้ยยย!!!

<‐‐nextpage‐->

มาดูที่พักในเมืองโอคายาม่าที่เราพักในทริปนี้กันบ้างดีกว่า^^

Smile Hotel – Okayama ที่พักตรงนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Okayama St. ไปหน่อย สะดวกตรงที่สามารถนั่งรถรางไปได้ เดินไม่ถึง 100ม.จากสถานีรถรางเลย

ข้ามถนนมาจาก สถานี Yubinkyoku-Mae Station เดินเลี้ยวมาอีกนิดเดียว ก็จะเจอตึกจะมีป้ายชื่อ Smile Hotel – Okayama บอกชัดเจนสังเกตได้ง่ายๆ มองหาไม่ยากเลย

เรื่องอาหารการกินก็ไม่ได้ลำบากอะไรนะ ที่อยู่ใกล้ๆที่พักก็มีตัวเลือกอยู่รอบๆรร.มี ร้านสะดวกซื้ออยู่ห่างไปประมาณ 50. มีร้านอาหารเชนที่เปิด 24ชม.ชื่อ Nakau อยู่ฝั่งตรงข้าม

รีวิว ร้าน Nakau ดูที่นี่เลย >>> https://www.facebook.com/promotion2u/posts/Nakau-Salary-Man

แต่ถ้าจะหาของกินแบบเยอะๆแนะนำให้ไปดูที่แถวสถานีโอคายาม่า หรือไม่ก็เดินไปตามถนนที่อยู่ข้างรร.จะเป็นโซนร้านอาหาร ร้านเหล้าที่เปิดกันถึงดึกๆ

ส่วน Lobby จะอยู่ที่ชั้น2 ของตัวอาคารขึ้นลิฟท์ไปก็จะเจอแล้วจ้า โซนล็อบบี้จะมีมุมนั่งพักรอน่ารักๆ โซฟาและที่นั่งในโซนนี้หุ้มผ้าสีสันและลวดลายแบบญี่ปุ่นน่ารักๆ ดูมินิมอลเก๋ๆดีนะ

ห้องพักที่นี่กว้างขวางนอนสบาย เรานอนพักในห้องเตียงคู่ เตียงกว้างนอนสบายดีเลย ^^

ห้องน้ำก็ตามมาตรฐานแบบห้องพักที่ญี่ปุ่น สะอาดสะอ้านดี มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบ ส่วนของใช้ในโรงแรมต่างๆก็สามารถหยิบขึ้นมาได้จากที่ล็อบบี้เลยนะ

มุมโต๊ะทำงานมีเก้าอี้นั่งให้ 1ชุด กับ เก้าอี้นั่งทำงานอีก 1ตัว มีตู้เย็น เครื่องฟอกอากาศ ทีวี ให้ใช้ครบ

Smile Hotel – Okayama Map: https://maps.app.goo.gl/iEuxwxoUXLSoTNue6

การเดินทาง: นั่งรถรางสาย1สีเขียว จากสถานี JR Okayama มาลงที่ป้าย Yubinkyoku-Mae Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที

 

(Visited 7 times, 1 visits today)